สำหรับคนที่ใช้ Web Browser ด้วย Firefox ผมก็จะมาแนะนำ Extension Firefox ที่จำเป็นต่อการใช้งานทั้งในส่วนของ User และ Developer ซึ่งคนที่ใช้ Firefox เป็น Web Browser หลักจำเป็นจะต้องรู้จักและทำการติดตั้งเอาไว้ ซึ่งผมก็ใช้อยู่ในปัจจุบัน
Basic Extension
- Adblocker for YouTube : ใช้สำหรับปิดกั้นโฆษณาบน Youtube ทั้งในส่วนที่เป็น Banner, Popup และส่วนที่เป็น Pre-Roll โฆษณาบน Video นอกจากนี้ยังสามารถปิดกั้นโฆษณาบนเว็บไซต์ทุกเว็บที่มีการ Embed Video จาก Youtube
- Enhancer for YouTube : ใช้สำหรับปรับแต่งตำแหน่งการแสดง Video ด้วยการใช้ Javascript, การ Pin Video ไว้ที่ขอบจอ, ควบคุมระดับเสียงด้วย Mouse Scroll นอกจากนี้ยังรวม Feature ของ Adblocker ในการปิดกั้นโฆษณา
- Netflix Hidden Categories for Firefox : ใช้สำหรับแสดง Category Movie ของ Netflix ทีถูกซ่อนอยู่กว่า 20,000 หมวดหมู่ นอกจากนี้ยังสามารถทำการค้นหา Search และทำการ Save Favorite หมวดหมู่ที่เราชื่นชอบได้ด้วย
- Facebook Video Downloader : ใช้สำหรับ Download Video ที่อยู่บน Facebook เพียงแค่ทำการ Scroll Video บน Facebook หรือเล่น Video ผ่าน URL Direct แล้วคลิก Download จะได้ไฟล์วีดีโอ MP4
- Instagram Downloader : ใช้สำหรับ Download Photo และ Video ที่อยู่บน Instagram เพียงแค่คลิก Download
- Search by Image : ใช้สำหรับค้นหาข้อมูลด้วยรูปภาพ ซึ่งรองรับ Search Engine หลายตัว ไม่ว่าจะเป็น Google, Bing, Baidu รวมถึงสามารถค้นหาในเว็บไซต์ขายรูปอย่าง Shutterstock, Adobe Stock
- Python Notebook Viewer : ใช้สำหรับเปิดดูไฟล์ Python Notebook โดยไม่ต้องเสียเวลามานั่งรันคำสั่ง jupyter notebook แต่จะสามารถดูได้อย่างเดียว ไม่สามารถทำการรันคำสั่งในภาษา Python ได้
- Pretty XML : ใช้สำหรับจัด Format XML ให้สามารถอ่านได้ง่าย เหมือนการเปิดไฟล์ JSON บน Firefox ที่ถูกติดตั้งมาให้โดย Default แต่ XML ไม่ได้ติดตั้งมาให้ ซึ่งจะสลับกันกับ Chrome ที่ติดตั้ง Format XML มาให้ แต่ไม่ได้ติดตั้ง Format JSON
- Wappalyzer : ใช้สำหรับตรวจสอบ Technology ของแต่ละเว็บไซต์ที่ใช้พัฒนา โดยครอบคลุมตั้งแต่ Web Server, CSS Framework. JavaScript Framework, CMS, Ecommerce, Analytic
- SeoQuake : ใช้สำหรับการทำ Search Engine Optimization ซึงใช้ในการวิเคราะห์ Index, Page Rank, Landing Page, Backlink, Internal Link, External Link, Facebook Like, Keyword Density และยังใช้ในการตรวจสอบเว็บไซต์ Diagnostic ถ้าหากคุณทำงานด้าน Digital Marketing จะต้องศึกษาเอาไว้
- EO.Finance : ใช้สำหรับจัดการ Crypto Currency ซึ่งเป็น Crypto Wallet ที่ Support สกุลเงินดิจิตอลกว่า 40 Currency และใช้ร่วมกับ Debit / Credit Card Payment ในการชำระเงินออนไลน์
- Ghostery – Privacy Ad Blocker : ใช้สำหรับปิดกั้นโฆษณาบน Website โดยเน้นเรื่องของ Privacy ด้วยการป้องกันการติดตาม Block Tracker บนเว็บไซต์ จะเสียตรงทีหาก Enable Extension นี้ จะทำให้ไม่สามารถใช้งาน Google Colab ได้
Option Extension
- Smart-ID WebAutoLogin : ใช้สำหรับยืนยันตัวตนเข้าสู่ระบบ Auto Login Website ด้วยลายนิ้วมือ Fingerprint Verification ผ่านการ Save ข้อมูลที่ทำการเข้าสู่ระบบ Account & Password จำเป็นจะต้องมี Device ที่ใช้ในการแสกนลายนิ้วมือ ซึ่งผมใช้ Kingmax iKey
- Facebook Container : ใช้สำหรับป้องกันการติดตาม Activity บน Facebook ด้วยการแยกเก็บข้อมูลส่วนตัวที่ใช้ในการ Identity ทำให้ทำการติดตามกิจกรรมบน Facebook ด้วย Cookie ทำได้ยากขึ้น
- Gmail Email Signature – WiseStamp : ใช้สำหรับสร้าง Email Signature แบบสวย ๆ โดยมี Template ให้เลือกหลายรูปแบบ และสามารถใส่ Social Network เป็นแบบ Button ได้ด้วย สามารถใช้กับ Gmail และ Outlook ได้ฟรี แต่หากต้องการแก้ไข Design เองก็มีแบบ Pro ให้ใช้งาน
- Show Facebook Computer Vision Tags : ใช้สำหรับงานด้าน Computer Vision โดยจะ Detect Object ของ Image ที่อยู่บน Facebook แบบอัตโนมัติ โดยใช้ Deep Learning ซึ่งการติดตั้ง Extension จะต้องติดตั้งในโหมด Debugging
- HackBar : ใช้สำหรับงานด้าน Pentest โดยสามารถทำสอบ SQL Injection, Cross-site Scripting ( XSS ) ใช้งานได้ฟรี แต่หากต้องการ Feature เพิ่มเติมก็มีแบบ Pro ให้ใช้งาน
- HTTP Header Live : ใช้สำหรับแสดง HTTP Header ของแต่ละ HTTP Request ที่ทำการร้องขอไปด้วย URL ซึ่งช่วยให้เราเห็นช่องโหว่และสามารถทำการป้องกันการโจมตีที่เกิดจาก HTTP Header Injection ทำให้ Website มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
- Modify Header Value : ใช้สำหรับการเพิ่ม ลบ แก้ไข HTTP Header ของแต่ละ HTTP Request ที่ทำการร้องขอไปด้วย URL ไม่ว่าจะเป็น Authentication, Caching, Client Hint, Condition, Connection, Control, Cookie, CORS, Proxie, Redirect, Security หากทำ Web API ที่จะต้องใส่ API Key จะช่วยให้เราทำงานง่ายขึ้นโดยไม่ต้องใช้ Postman
- WordPress Theme Detector : ใช้สำหรับตรวจสอบ Theme และ Plugin ของแต่ละเว็บไซต์ที่ใช้ WordPress ในการทำเว็บ นอกจากนี้ยังบอก Version ของ WordPress และ Theme อีกด้วย
Leave a Reply